การเลือกชุดผ้าปูที่นอนที่มีความนุ่ม มีมากกว่าการดูจำนวนเส้นด้ายต่อพื้นที่เพียงอย่างเดียว
ใครที่ตอนนี้กำลังเปิดหาอ่านรีวิว ผ้าปูที่นอน เพราะกำลังตัดสินใจเลือกชุดผ้าปูที่นอนที่ทำให้คุณนอนหลับสบายด้วยสัมผัสที่มีความนุ่ม เย็นสบายและมีความคงทน สามารถใช้ไปได้นานหลายปี คุณคงจะได้พบข้อความประมาณว่า “จำนวนเส้นด้ายต่อพื้นที่ยิ่งมาก ยิ่งทำให้ผ้ายิ่งนุ่ม” แท้จริงแล้ว ความเชื่อนี้มีส่วนที่ถูกอยู่ แต่ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมด ปัจจัยที่ทำให้ผ้าปูที่นอนมีความนุ่มนั้น ยังมีอีกหลายปัจจัย แท้จริงแล้วเป็นเช่นไร ลองมาดูกัน…
หลายคนคงยังฝังใจกับการเลือกซื้อชุดผ้าปูที่นอนว่าถ้าจะเลือกซื้อผ้าปูที่นอนดีๆ นอนนุ่มๆ นั้นต้องเลือกชุดผ้าปูที่นอนที่มีจำนวนเส้นด้ายต่อพื้นที่มากๆ ยิ่งจำนวนเส้นด้ายมากยิ่งดี ยิ่งนุ่ม แต่น้อยที่จะเข้าใจว่าจำนวนที่เส้นด้ายเราพูดถึงกันนั้นมันคืออะไร
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจก่อนว่า จำนวนเส้นด้ายที่เราใช้ตัดสินความนุ่มของชุดผ้าปูนั้นก็คือ การที่เรากำลังพูดถึง “ความหนาแน่นของเส้นด้ายต่อพื้นที่” โดยปกติแล้วผ้าปูที่นอนจะผ่านการตรวจนับเส้นด้ายเพื่อกำหนดคุณภาพของผ้าปู โดยการตรวจนับเส้นด้ายคือการตรวจนับจำนวนเส้นด้ายที่ถูกทอในพื้นที่ผ้าขนาดหนึ่งตารางนิ้วซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานสากล อยากให้ลองนึกภาพตาม ให้นึกถึงภาพของเนื้อผ้า เมื่อเราซูมเข้าไปใกล้ ๆ เราจะเห็นภาพของความละเอียดของเนื้อผ้าที่มีเส้นด้ายที่ถูกถักทอ ขัดสานกันอย่างละเอียดยิบจนกระทั่งเป็นผ้าผืนหนึ่ง
และลองจำกัดภาพไปที่พื้นที่หนึ่งของผ้านั้น ผ้าที่มีความหนาแน่นของจำนวนเส้นด้ายมากคือผ้าที่มีจำนวนเส้นด้ายในพื้นที่ที่เราจำกัดไว้จำนวนมาก และเราจะพบว่าคุณสมบัติหนึ่งของผ้าที่มีเส้นด้ายต่อพื้นที่มากก็ยิ่งมีความคงทนมาก และความหนาแน่นมากก็ยิ่งทำให้มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น และเมื่อเราสัมผัสเนื้อผ้าก็จะมีความ smooth มีความนุ่ม ความลื่นมากยิ่งขึ้นด้วย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความละเอียดของเนื้อผ้านอกจากจำนวนเส้นด้ายที่ถักทอแล้ว ยังขึ้นอยู่กับชนิดของด้ายที่นำมาใช้ และด้ายแต่ละชนิดก็จะมีขนาดที่แตกต่างกัน ขนาดที่แตกต่างก็จะส่งผลต่อการระบุความหนาแน่นของเนื้อผ้าอีกด้วย
ชนิดของเส้นด้ายที่นำมาใช้ในการทอนั้นมี 2 รูปแบบ ได้แก่ โครงสร้างด้ายเดี่ยว (single-ply yarn) คือ โครงสร้างที่เกิดจากการปั่นเกลียวเส้น 1เส้น ที่เป็นเส้นใยยาวเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้ผ้ามีน้ำหนักเบา นุ่ม แต่มีอายุการใช้งานยาวนานเป็นพิเศษ
และโครงสร้างด้ายที่เป็นเกลียว (multi-ply yarn) โครงสร้างแบบเกลียวคือการนำเส้นด้ายอย่างน้อย 2 เส้นมาพันเป็นเกลียวเข้าด้วยกันก่อนที่จะนำมาทอเป็นผ้า จึงทำให้ดูเหมือนว่าจำนวนเส้นด้ายเพิ่มมากขึ้นเป็นหลายเท่า เส้นด้ายแบบ multi-ply yarn จะมีขนาดใหญ่กว่าแบบ single-ply yarn เมื่อนำมาทอ ความละเอียดของเนื้อผ้าจะน้อยกว่า เนื้อผ้าหนา หยาบ และหนักขึ้น ดังนั้น ชุดผ้าปูที่นอนที่มีจำนวนเส้นด้ายเป็น 1,000 เส้น หรือ มากกว่า จึงไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพที่สูงเสมอไป
ดังนั้น คุณภาพของชุดผ้าปูที่นอนที่ดีนั้น จึงขึ้นอยู่กับชนิดของเส้นด้ายที่นำมาใช้ทอกับปริมาณเส้นด้ายต่อพื้นที่ที่เหมาะสม รวมถึงคุณภาพและเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการทอผ้าด้วย และจำนวนเส้นด้ายต่อพื้นที่ที่เหมาะสมนั้นด้วย ส่วนใหญ่จะพิจารณากันอยู่ที่ 300 – 600 เส้นด้ายต่อตารางนิ้ว ก็เพียงต่อการสัมผัสแล้วรู้สึกถึงความละเอียด นุ่มและลื่นแล้ว
และหากว่าเราได้ตามอ่าน รีวิว ผ้าปูที่นอน เราจะได้เห็นการนำเสนอชนิดของเนื้อผ้าปูที่นอนที่จะบอกถึงคุณสมบัติของความนุ่มของเนื้อผ้าแต่ละชนิดที่แตกต่างกัน เราลองมาทำความรู้จักเนื้อผ้าปูที่นอนตามท้องตลาดปัจจุบันกับลักษณะความนุ่มของแต่ละเนื้อผ้า ดังนี้
1. ชุดผ้าปูที่นอนจากเส้นใยธรรมชาติ 100% เส้นใยธรรมชาติที่ถูกนำมาใช้ทอผ้าได้แก่ เส้นใยจากไผ่ เส้นใยจากฝ้าย และเส้นใยจากไหม แต่ที่นิยมกันมากที่สุดคือเส้นใยจากฝ้าย ซึ่งถูกนำมาทำเป็นผ้า cotton ซึ่งจะเส้นใยธรรมชาตินี้จะมีคุณสมบัติเด่น เมื่อสัมผัสแล้วจะมีความรู้สึกถึงนุ่ม ความละเอียดของเนื้อผ้า ลื่น และสามารถระบายอากาศได้ดี
2. ผ้าซาติน เป็นผ้าที่ถูกผลิตมาจากเส้นใยโพลีแอสเทอร์ ลักษณะของผ้าชนิดนี้จะมีความเงา วาว ลักษณะคล้ายๆ ผ้าแพรของไทย คุณสมบัติเมื่อสัมผัสจะมีความนุ่ม ลื่นและเย็น
3. ผ้า CVC เป็นการผสมผสานกันระหว่างเส้นใยโพลีแอสเทอร์กับฝ้าย ในอัตราส่วนที่เท่า ๆ กัน เมื่อสัมผันแล้วจะรู้สึกถึงความนุ่ม ความนิ่มเบา ๆ เหมาะกับการเป็นผ้าปูที่นอนสำหรับเด็ก
4. ผ้าซาตินผสมผ้าฝ้าย เป็นผ้าที่ทางธุรกิจโรงแรมและที่พักนิยมใช้กัน เพราะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของความทนทาน และยิ่งซักยิ่งมีความนุ่ม โดยจะใช้เทคนิคในการทอผ้าซาตินหนา 1 นิ้วสลับกับการทอผ้าฝ้าย 100%
จะเห็นได้ว่าความนุ่มของผ้าปูที่นอนก็จะมีลักษณะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัสดุหรือชนิดของเส้นด้ายที่ถูกนำมาทอด้วย ทำให้ชุดผ้าปูที่นอนที่มีความนุ่มนั้นแตกต่างกันไป
5. ผ้า Tencel เป็นเนื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ 100% เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นเนื้อผ้าที่มีความละเอียด และจะให้สัมผัสที่นุ่ม ลื่น เย็น ตั้งแต่สัมผัสแรก สัมผัสลื่น เย็น เหมือนผ้าแพร มีความเงา สวย ดูหรูหรา ไม่กักเก็บความชื้น ไม่ระคายเคืองผิว เหมาะสำหรับผู้มีผิวแพ้ง่าย แต่ผ้าชนิดนี้จะต้องใช้ความพิถีพิถันในการดูแลรักษามากกว่าผ้าตระกูล Cotton.
6. ผ้า Bamboo (ใยไผ่) เป็นเนื้อผ้าจากนวัตกรรมใหม่ เป็นการนำเอาเส้นใยธรรมชาติจากต้นไผ่ มาถักทอให้เป็นผ้า ลักณะของผ้าทอใยไผ่จะมีความนุ่มนวล เบาสบาย และไม่ระคายเคือง เหมาะสำหรับผิวผู้แพ้ง่าย ราคาไม่แพงมากนัก และมีความทนทานต่อการใช้งานเป็นอย่างดี
และหากว่าตอนนี้คุณกำลังเลือก ผ้าปูที่นอนแบบไหนดีและผ้าปูที่นอน ยี่ห้อไหนดี เราอยากให้คุณลองพิจารณา ชุดผ้าปูที่นอนของเรา LOFTYSOFT ชุดผ้าปูที่นอนคุณภาพระดับพรีเมี่ยมแต่ในราคาสบายกระเป๋า มีทั้งชุดผ้าปูที่นอน 6 ฟุต ชุดผ้าปูที่นอน 5 ฟุต รัดมุม คุณภาพของเส้นด้ายที่ใช้เป็นเส้นใยธรรมชาติ cotton 100% ซึ่งจะมีความโดดเด่นในเรื่องของความนุ่ม ยิ่งซักยิ่งมีความนุ่ม ลื่น สามารถระบายอากาศได้ดี เหมาะกับอากาศของเมืองไทย ความละเอียดของการทออยู่ที่ 442 เส้นด้ายต่อหนึ่งตารางนิ้ว หรือ 550เส้นด้ายต่อ 10ตารางเซนติเมตร (Single-ply yarn) สามารถป้องกันไรฝุ่น และมาพร้อมกับนวัตกรรม CoolTouch เทคโนโลยีการทอผ้าอัจฉริยะที่ช่วยให้ถ่ายเทอากาศได้ดี ช่วยให้นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น
สนใจสั่งซื้อสินค้าหรือสอบถามข้อมูล
Line: @loftysoft หรือคลิก https://bit.ly/3kglaZi
Facebook: @LOFTYSOFT.shop
Email: info@loftysoft.co
Tel: 033-031035
Commentaires